TH

สัตว์ตัวร้ายที่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าฝน

สัตว์ตัวร้ายที่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าฝน
เขียนเมื่อ 31 พ.ค. 2560   |   โดย ศรุดาภา   |   มีคนอ่านแล้ว 62781 คน

สัตว์ตัวร้ายที่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง

ในช่วงหน้าฝน


     สัตว์ตัวร้ายที่ช่วงเวลาปกติเราก็จะไม่ค่อยได้พบเห็นสักเท่าไรนัก แต่เมื่อมีฝนหรือมีน้ำท่วมขังเรามักจะเห็นเจ้าสัตว์มีพิษเหล่านี้ออกมาป้วนเปี้ยนบางครั้งทำอันตรายให้กับทั้งคนและสัตว์เลี้ยงในบริเวณบ้านได้ สัตว์ที่ว่านี้จะหนีความชื้นหรือน้ำท่วมขังเพื่อหาความอบอุ่น และหาที่อยู่ใหม่นั่นเอง 



ตะขาบ






    ตะขาบเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ชอบซุกตัวอยู่บริเวณที่อับชื้นและรก เช่น ใต้ตุ่มน้ำ กองไม้ ซากต้นไม้เปียก ซึ่งพิษของตะขาบโดยทั่วไปไม่มีอาการรุนแรงสักเท่าไหร่ ส่วนมากจะมีแผลบวมและแดงเล็กน้อย บริเวณที่โดนกัดจะมีรอยเขี้ยวเป็นสองจุดคล้ายงูกัดแต่แผลจะไม่ลึกเหมือนงูกัด หากสัตว์เลี้ยงโดนตะขาบกัดจะมีอาการปวด ร้อน และถ้าสัตว์เลี้ยงแพ้พิษของตะขาบจะมีอาการบวมมากที่แผล ซึ่งเป็นอันตรายมากเนื่องจากอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียได้ 


    ฉะนั้นแล้วการปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากสัตว์เลี้ยงถูกตะขาบกัด ให้รีบทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือและบีบไล่เอาเลือดเสียออกมา ระวังอย่ากดแรงเพราะเนื้อเยื่อบริเวณรอบแผลอาจถูกทำลายไปได้ หากสัตว์เลี้ยงอาการไม่ดีขึ้นให้รีบนำส่งสัตวแพทย์ทันที



คางคก


    คางคกเป็นสัตว์อึดและถึกทั้งบนบกและในน้ำ ซึ่งมีพิษจะอยู่ตาม ผิวหนัง เลือด และรังไข่ แต่มีต่อมพิษอยู่ที่บริเวณหัวเหนือตา เมื่อคางคกถูกรบกวนหรือคุกคาม จะหลั่งสารพิษออกมาเมื่อได้รับพิษของคางคกมันจะซึมผ่านทางเยื่อเมือกเช่นลิ้น ปาก ตา อย่างรวดเร็ว  ลักษณะพิษจะเป็นยางเมือกสีขาว ส่วนใหญ่สัตว์เลี้ยงเช่นหมาและแมวจะกัดและคาบคางคกเล่น ทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ปากและหน้า อาการของสัตว์ที่ได้รับพิษคางคกนั้นจะเป็นไปอย่างปุบปับทันทีทันใด เช่น หมาหรือแมวจะมีน้ำลายไหลมาก ท่าทางกระสับกระส่าย หอบ ตื่นเต้น มีอาการบวมแดงอย่างมากปรากฏที่บริเวณใบหน้า ปากหรือตาส่วนที่ไปสัมผัสกับคางคก อาจทำให้เกิดการบวมอักเสบ ทำให้หายใจลำบาก น้ำลายฟูมปาก เจ็บปวดแสบร้อน และพิษส่งผลต่อการทำงานของหัวใจของสัตว์เลี้ยงด้วย 







   วิธีปฐมพยาบาลเมื่อสัตว์เลี้ยงถูกพิษจากคางคก ควรรีบจัดการล้างปากสัตว์เลี้ยงในทันทีเพื่อชะล้างเอาพิษในช่องปากออกมาให้มากที่สุด ฉีดน้ำล้างปากนานประมาณ 5-10นาที  อย่าให้กลืนเข้าไปแต่หากสัมผัสพิษมานานจนหน้าและปากบวมแล้ว ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งคุณหมอจะรักษาไปตามอาการ และต้องแน่ใจด้วยว่าสัตว์เลี้ยงไม่ได้กลืนกินคางคกเข้าไปเพราะนั่นหมายถึงอันตรายถึงชีวิตของสัตว์เลี้ยงได้เลย



แมงป่อง






    แมงป่องสัตว์มีพิษอีกหนึ่งชนิด มีกล้ามคล้ายปู แต่ความร้ายกาจกลับไปอยู่ที่ปลายหาง โดยการใช้ปลายหางต่อยและปล่อยพิษที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทและระบบเลือดแทน แผลที่ถูกแมงป่องต่อยจะมี 1 รู เจ็บปวดมากสัตว์เลี้ยงอาจมีอาการน้ำลายฟูมปาก อาเจียน เลือดไหลไม่หยุด และอ่อนแรงได้  การปฐมพยาบาล ก็คล้ายกับการถูกงูหรือตะขาบกัด แต่ที่สำคัญคือ ควรนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วย 

 



งู









    งูส่วนใหญ่ที่หนีน้ำมาคือ งูเหลือม และงูหลาม ซึ่งเป็นงูไม่มีพิษ สามารถว่ายน้ำได้เป็นอย่างดี ส่วนงูพิษที่หนีฝนมามักจะเป็น งูเห่าและงูจงอางชอบไปขดอยู่ในที่มืดและอบอุ่น ตามซอก หลืบ มุม  ที่มีขนาดค่พอดี เพราะงูจะรู้สึกปลอดภัยกว่านอนในที่โล่งแจ้ง



    สัตว์เลี้ยงที่ถูกงูเห่าหรืองูพิษชนิดอื่นกัดจะเห็นได้ชัดจากบาดแผลว่ามีรอยเขี้ยว 1-2 แผล ต่างกับงูไม่มีพิษที่จะไม่มีเขี้ยวมีเพียงรอยถากเป็นแนวรอยฟัน ปัญหาคือสัตว์เลี้ยงมีขนที่ปกคลุมไม่ง่ายต่อการสังเกตเห็นรอยแผล จะทราบได้ก็ตอนที่สัตว์เลี้ยงแสดงอาการอื่นเช่น แผลบวมขึ้น หน้าบวม ตัวบวม มีอาการปวด กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นอัมพาต  มีจุดเลือดออก อาจียนหรืออุจจาระเป็นเลือด ในการปฐมพยาบาลหมาถูกงูพิษกัดนั้น ขั้นแรกต้องใช้ผ้าหรือเชือกรัดให้แน่นตรงบริเวณเหนือแผลราว1นิ้ว เพื่อป้องกันพิษงูแพร่เข้าไปสู่หัวใจและส่วนอื่นๆ ของร่างกาย จากนั้นให้รีบนำส่งหมอโดยเร็วที่สุดเพื่อรับเซรุ่มแก้พิษงู







    หากผู้เลี้ยง รู้จักพิษจากสัตว์อันตรายและรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเอาไว้บ้างก็จะสามารถช่วยเหลือชีวิตสัตว์เลี้ยงที่เรารักเอาไว้ได้ด้วย และหากรู้จักป้องกันไว้ก่อนเช่นการทำให้บ้านโล่งและเรียบ (งูจะไม่ชอบพื้นเรียบเพราะเลื้อยยาก) เก็บขยะใส่ถุงหรือถังขยะปิดให้มิดชิด เพื่อป้องกันหนูเข้ามากินขยะ ซึ่งงูก็จะตามหนูมาอีกที ดูแลบริเวณที่จะมีน้ำขัง ไม่ให้มีความชื้น ป้องกันสัตว์ัอันตรายเหล่านี้เข้ามาหลบอาศัยได้ 




ข้อมูลบางส่วนมาจาก


 www.Dogilike.com

www.Bearingpetcare.com

www.itaam.co

TH
รถเข็นสินค้า

รถเข็นสินค้าของคุณว่างเปล่า
สินค้า จำนวน รวม