EN

หมูจิ๋วมีจริงหรือ

หมูจิ๋วมีจริงหรือ
เขียนเมื่อ 5 Jun 2017   |   โดย ศรุดาภา   |   มีคนอ่านแล้ว 18500 คน


หมูจิ๋วมีจริงหรือ







สำหรับคนที่ชื่นชอบความแปลกใหม่น่าจะเคยได้ยินคำว่าหมูจิ๋ว ในวงการสัตว์เลี้ยงมาบ้าง แต่หากใครที่ยังไม่เคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่เคยรู้มาก่อนคำว่าหมูจิ๋วอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไรนัก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหมูจิ๋วเป็นที่นิยมเลี้ยงกันในต่างประเทศ เช่นปารีสฮีลตั้น นักแสดงฮอลลีวู้ด เพิร์ทกรินท์  นักแสดงจาก  แฮร์รี่พอตเตอร์ เดวิด  แบ็ตแฮม และภรรยาก็ชื่นชอบและเลี้ยงเจ้าหมูจิ๋วด้วยเช่นกัน ด้วยเพราะราคาที่ค่อนข้างสูงจึงเป็นสัตว์เลี้ยงเฉพาะกลุ่มนั่นเอง



ทำไมจึงเรียกหมูจิ๋ว


     เพราะมีขนาดที่เล็กว่าหมูโดยทั่วไป  และมีน้ำหนักที่น้อยกว่าลูกหมูทั่วไป จึงเรียกว่าหมูจิ๋ว ระยะการเติบโตต้องใช้เวลา2 – 3 ปี  มีความสูง  14 – 16 นิ้ว ด้วยกันน้ำหนักเต็มที่อยู่ที่ 30 กิโลกรัม มีอายุเฉลี่ย15 -20ปี เลี้ยงดูได้ง่ายหมูจิ๋วนั้นมีปัญหาด้านสุขภาพที่น้อยมาก พวกเขาเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีกลิ่นไม่มีหมัด  หากใครที่เป็นโรคภูมิแพ้สุนัขหรือว่าแมว  หมูจิ๋วก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เลี้ยงได้






     สำหรับต่างประเทศอาจจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันเช่น  Micro pig, Teacup pig, Mini Pig ประวัติของหมูจิ๋วนั้นเริ่มมาเมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการทดลองและวิจัยทางการแพทย์ ณ ฟาร์มเลี้ยงหมูแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ โดยนาย คริส มอเรย์ เจ้าของฟาร์ม ที่นำเอาหมูหลากหลายสายพันธุ์มาผสมพันธุ์กันเช่นหมูนิวซีแลนด์ หมูเวิร์ท และอื่นๆ รวมแล้ว 24 ครอก เพื่อให้ได้ลูกหมูที่มีขนาดเล็ก เขาใช้เวลา 9 เดือนจึงประสบผลสำเร็จ ได้สายพันธุ์ที่ต้องการ โดยตั้งชื่อว่า “ทีคัพ พิก-Teacup pig” เพราะว่าตอนที่คลอดออกมานั้นมีขนาดเล็กเท่าถ้วยน้ำชา


  ต่อเมื่อเขาขายลูกหมูจิ๋วพันธุ์นี้ให้คนอื่นๆ ราคาหลายหมื่นบาท ก็มีข่าวตามมาว่าคนดังในวงการหลากสาขา แห่เลี้ยงหมูชนิดนี้กันมากมาย ด้วยความน่ารักของพวกมันและการดูแลที่ง่ายแสนง่าย สามารถเลี้ยงในบ้านได้เหมือนกับสุนัขและแมว ปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆถือว่าน้อยมาก


  หมูจิ๋วจะมีลักษณะมีขนาดเล็กกว่าหมูทั่วไปมาก  ตามจริงแล้วขนาดที่โตเต็มที่ก็ประมาณสุนัขพุดเดิ้ล และในปัจุบันทางประเทศไทยเราเองได้มีคนน้ำมาเพาะพันธุ์ได้แล้ว  หากใครที่สนใจอยากจะเลี้ยง ลองค้นหาข้อมูลการจำหน่ายจากผู้เพาะพันธุ์ในประเทศจะได้มีราคาที่ถูกกว่าการนำเข้า   แต่การซื้อทุกครั้งควรที่จะแน่ใจว่าเป็นหมูจิ๋วที่เราต้องการเรพาะว่าในขณะที่หมูยังเล็กนั้น  ไม่ค่อยแตกต่างจากหมูโดยทั่วไป  ควรที่จะศึกษาก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อไม่ให้โดนหลอกได้








การเลี้ยงดูและให้อาหาร


      สัญชาติญาณของหมูนั้นคือการขุดและนอนตามพื้นดินต่างๆเพราะฉะนั้นการทำคววามสะอาดจึงเป็นเรื่องสำคัญแต่ด้วยความที่หมูจิ๋วนั้นมีผิวที่แพ้ง่าย หากอาบน้ำบ่อยอาจมีปัญหาเรื่องโรคผิวหนัง การอาบน้ำอาทิตย์ละหนึ่งครั้งจึงเหมาะสมที่สุด และถึงแม้จะเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็กเลี้ยงในบ้านได้เหมือนสุนัขและแมว แต่อาหารนั้นคนละอย่างกันเลย  การให้อาหารควรที่มีผักและผลไม้เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน  หรือว่าจะให้ปริมาร 25% ของอาหารที่ให้กินในแต่ละครั้ง  ผักควรประกอบด้วย  แตงกวา  ผักใบเขียวทั้งหลาย  ผลไม้ต่างๆ  ชอบแอปเปิ้ล หัวอาหารควรให้เท่าที่จำเป็น จะต้องให้อาหารที่มีความสมบูรณ์  หากหมูยังมีตัวเล็กมากก็อย่าพึ่งให้อาหารมาก เพราะอาจจะส่งผลเสีย  หมูจะกินอาหารไม่เลือกจะหิวไม่หิวก็ตาม ให้วันละสองครั้งเช้าและเย็น  อย่าให้อาหารที่เป็นเนื้อและมีรสเค็ม 

   








      สรุปแล้วว่าหมูจิ๋วนั้นมีอยู่จริงค่ะ แต่หากต้องการจะเลี้ยงจริงๆนั้นผู้เลี้ยงต้องศึกษาข้อมูลของเขาให้ดี และต้องมั่นใจว่าจะไม่โดนผู้ขายหลอก เพราะหมูที่เพิ่งคลอด หรือหมูที่ยังเล็กนั้นก็มีหน้าตาเหมือนกันหมด บางทีหากไม่มีความรู้เรื่องสายพันธุ์ สี ขนาดน้ำหนักก็อาจโดนหลอกได้ง่าย ที่สำคัญที่สุดผู้เลี้ยงต้องถามความคิดเห็นของในบ้านด้วยว่าจะสามารถอยู่ร่วมกับหมูได้หรือไม่ สามารถเป็นที่ยอมรับของคนในครอบครัวได้ไหม เพราะถ้าซื้อเค้ามาเลี้ยงโดยไม่ปรึกษาคนในครอบครัวอาจเกิดปัญหาอื่นตามมาได้มาก การตัดสินใจเลี้ยงสัตว์หนึ่งชีวิตนั้นหมายความว่าเราต้องดูแลเขาไปจนกว่าจะหมดอายุขัยของเขาด้วย ความรับผิดชอบของผู้เลี้ยงที่มีต่อสัตว์เลี้ยงจึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงอันดับแรก หากยังไม่พร้อมอย่าเพิ่งตัดสินใจเลี้ยงจะดีกว่า






ข้อมูลบางส่วนมาจาก


www.dongpradufarm.com

www.rakbankerd.com

www.komchadluek.net

EN
Your Cart

Your cart is empty!
Products Qty Total