EN

เลือกทรายแมวแบบไหนดี

เลือกทรายแมวแบบไหนดี
เขียนเมื่อ 16 Jun 2017   |   โดย ศรุดาภา   |   มีคนอ่านแล้ว 67961 คน



เลือกทรายแมวแบบไหนดี



      แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด และพิถีพิถันในการขับถ่ายมากเรื่องห้องน้ำสำหรับแมวจึงเป็นเรื่องที่ควรนึกถึงเป็นอันดับแรก โดยปกติแมวจะอุจจาระวันละ 1 ครั้ง และปัสสาวะวันละ 2-4ครั้ง เราจึงควรทำความสะอาดกะบะทรายแมวทุกวันเพื่อสุขอนามัยของแมวและเพื่อเป็นการกำจัดกลิ่นฉุนที่หมักหมมในกะบะทราย









ทรายแมวที่วางขายตามท้องตลาดในบ้านเราแบ่งตามประเภทของวัตถุดิบมี 3 ชนิด


1.ทรายแมวเบนโทไนท์ (Bentonite) ลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆโดยมีสารเบนโทไนท์ (Bentonite) เป็นองค์ประกอบหลักซึ่งสามารถดซับน้ำได้ดี หลักการทำงานของสารเบนโทไนท์คือเมื่อสัมผัสกับความชื้นหรือของเหลวจะจับตัวเป็นก้อนแข็ง ทำให้คัดแยกออกง่ายเมื่อต้องทำความสะอาดกะบะทรายแมว โดยการตักเอาเฉพาะส่วนที่เป็นก้อนแข็งทิ้งไปและเติมทรายใหม่เข้ามา เกรดที่ดีที่สุดของทรายแมวเบนโทไนท์คือเกรดที่มีวัตถุดิบมาจากหินภูเขาไฟ หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่สูงมาก แต่ข้อเสียคือทรายติดเท้าแมวง่ายและมีฝุ่นฟุ้งกระจายไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ด้วยคุณสมบัติที่จับเป็นก้อนเมื่อสัมผัสของเหลวจึงไม่ควรเททิ้งลงในชักโครก เพราะจะทำให้ท่ออุดตันได้



2.ทรายแมวคริสตัล (crystal litter) หรือทรายแมวซิลิก้าเจล เป็นวัสดุประเภทโซเดียมซิลิเกต (sodium silicate) มีลักษณะเป็นก้อนกรวดใส อาจมีสีอื่นๆและกลิ่นอื่นๆด้วย เม็ดเล็ก มีความพรุน ทรายแมวชนิดนี้มีสมบัติดูดซับสูงกว่า และดักกลิ่นได้นานกว่าทรายแมวชนิดอื่น รวมถึงมีอายุการใช้งานนานมากกว่าด้วย มีฝุ่นน้อยมากจนถึงไม่มีเลยแต่ราคาค่อนข้างสูง ทรายแมวชนิดนี้สามารถรองรับการดูดซับกลิ่นและของเสียของแมวขนาดปกติ 1 ตัวได้นานถึง 30 วัน (ทรายหนักประมาณ 2 กิโลกรัม) เปรียบเทียบกับการใช้ทรายแมวแบบเบนโทไนท์ซึ่งต้องใช้ทรายแมวปริมาณ 9-14 กิโลกรัม เนื่องจากต้องตักทรายแมวเก่าทิ้ง และเติมของใหม่ลงไปเสมอ แต่สำหรับทรายแมวชนิดคริสตัลหรือซิลิก้าเจล ผู้ใช้เพียงแค่คนทรายแมวเบาๆ และกำจัดมูลแมวทุกวัน และคอยสังเกตว่าทรายแมวเริ่มส่งกลิ่น รวมถึงมีสีที่เปลี่ยนไปหรือยัง หากเริ่มมีกลิ่นหรือสีเริ่มเปลี่ยน แสดงว่าวัสดุดูดซับฉี่แมวเต็มที่และได้เวลาเปลี่ยนของใหม่ใส่ลงไปแทน โดยต้องเททิ้งทั้งกะบะ 


3.ทรายแมวที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติชนิดต่างๆ เช่น ก้อนขี้เลื่อย เศษไม้สน ข้าวบาร์เลย์ เปลือกส้มตากแห้ง รวมถึงกระดาษหนังสือพิมพ์ใช้แล้ว เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงที่ใส่ใจเรื่องธรรมชาติ ด้วยเหตุที่ผู้เลี้ยงแมวมักจะใช้ทรายแมวซึ่งเป็นวัสดุประเภทใช้แล้วทิ้ง ปริมาณขยะที่เกิดจากทรายแมวจึงมีมาก ซึ่งขยะเหล่านี้ไม่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ เพราะเป็นสารอนินทรีย์  ดังนั้นผู้เลี้ยงแมวส่วนหนึ่งที่ใส่ใจถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมจึงหันมาเลือกใช้ทรายแมวที่ย่อยสลายทางชีวภาพได้ แม้จะมีราคาสูงกว่าทรายแมวทั่วไปก็ตาม นอกจากนี้ด้วยเหตุที่ทรายแมวทั่วไปเป็นสารอนินทรีย์ที่ไม่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพ ผู้เลี้ยงบางส่วนจึงกังวลว่า ทรายแมวอาจเป็นอันตรายกับแมวของตน หากเผลอกลืนทรายแมวเข้าไปขณะเลียทำความสะอาดเท้าตัวเอง จึงเป็นเหตุให้บางบริษัทคิดผลิตทรายแมวด้วยข้าวโพด เยื่อไม้ ข้าวสาลี รวมถึงเปลือกถั่ว ออกมาเพื่อเป็นทางเลือกแก่คนรักแมว เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีพฤติกรรมชอบกินทราย หรือบอบบาง แพ้ง่าย







 ใส่ทรายแมวปริมาณเท่าไรของกะบะ


ปริมาณของทรายในกะบะควรใส่ในระดับพอสมควรที่ทำให้แมวสามารถกลบได้ แต่มีข้อแนะนำว่า การใส่ทรายปริมาณมากๆ ก็อาจทำให้ทรายกระเด็นเลอะเทอะออกนอกกะบะได้เช่นกัน ดังนั้นปริมาณที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแมวแต่ละตัว แมวบางตัวอาจไม่ชอบกลบ แต่บางตัวจะกลบอย่างดุเดือดมาก ผู้เลี้ยงก็ต้องใส่ในปริมาณจำกัดและ หากะบะทรายให้ลึกพอสมควร บางที่ใช้ลังพลาสติกก็แล้วแต่ว่าใครถนัดใช้แบบไหน


ทางเลือกอื่น


ซึ่งทางเลือกอื่นๆที่มีบางบ้านใช้อยู่ก็คือทรายก่อสร้างทั่วไปเอามาใส่กะบะจัดวางในที่ประจำให้แมว วิธีนี้ก็ช่วยประหยัดได้มากเหมาะสำหรับการเลี้ยงแมวแบบเปิดมากกว่าเพราะทรายก่อสร้างเมื่อซึมซับฉี่แมวไปแล้วจะค่อนข้างมีกลิ่นฉุนมาก หากผู้เลี้ยงขาดการดูแลที่เหมาะสมแล้ว กลิ่นมูลหรือฉี่แมวแมวก็สามารถส่งกลิ่นรบกวนได้ เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงจึงควรหมั่นดูแลกะบะทรายของน้องแมวบ่อยๆ มีการล้างกะบะทรายและตากแดด เพื่อไม่ให้มีการหมักหมมสะสมเชื้อโรคจนเกินไปค่ะ





ข้อมูลบางส่วนมาจาก

www.kapook.com

www.oknation.tv



EN
Your Cart

Your cart is empty!
Products Qty Total